Thursday, April 23, 2015

Medieval หรือ ยุคกลาง คืออะไร?


Medieval หรือ ยุคกลาง คืออะไร?

ในประวัติศาสตร์ของยุโรป คำว่ายุคกลาง (Middle Ages หรือ Medieval) หมายถึงช่วงเวลาศตวรรษที่ 5 ถึง 15 โดยเริ่มต้นจากการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก (ใช่ครับ โรมันที่ท่านเห็นในภาพยนตร์ทั้งหลาย เช่น หนัง Gladiator นั่นแล) แล้วมาเชื่อมกับยุค Renaissance (ศตวรรษที่ 14-17) ซึ่งเป็นยุคที่เชื่อมระหว่างยุคกลางกับยุคปัจจุบันของพวกเรา  เช่น หนัง Elizabeth หนังเกี่ยวกับ Shakespeare หรือหนังโพคาฮอนทัส ทาง Society for Creative Anachronism (SCA) ของพวกเราก็เลยเลือกที่จะนำจุดนี้มาทำเป็นองค์กร สมาคม ชมรมยุคกลาง โดยตั้งกฎว่าพวกคุณจะต้องสร้างตัวละคร persona ที่เป็นหรือเกี่ยวข้องกับชาติยุโรป"ก่อน"ศตวรรษที่ 17 ไงละครับ

Source: http://www.history.com/topics/middle-ages



THE MIDDLE AGES: BIRTH OF AN IDEA (ต้นกำเนิดของไอเดีย)

ยุคกลางที่พวกเราเล่นกันอยู่นี้ เป็นยุคที่ก่อให้เกิดการระเบิดของไอเดียต่อมาในยุค Renaissance ในช่วงศตวรรษที่ 14 ด้วยความที่ยุคกลางเป็นยุคแห่งความ"ป่าเถื่อน"และ"ศาสนา" ผู้คนหลังจากช่วงยุคกลาง นักคิด นักเขียน ศิลปินทั้งหลายถึงได้หวนนึกถึงช่วงแห่งความรุ่งเรืองของชาวกรีกและโรมัน พวกเขาพยายามจะลืมยุคกลาง ยุคมืด ที่ไม่มีความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ไม่มีงานศิลปะอันยิ่งใหญ่ใดๆ ไม่มีผู้นำอันยิ่งใหญ่ถือกำเนิด แต่สำหรับผมส่วนตัวแล้วมันมีเสน่ห์ ความขัดแย้งที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ แม้นจะไม่สวยงามแต่ก็ทำให้เกิดแรงบันดาลใจนะครับ


BLACK DEATH (กาฬโรค)

ช่วงปี 1347 - 1350 ได้มีโรคระบาดชนิดหนึ่งเรียกกันว่า "Black Death" (ความตายสีดำ) หรือก็คือกาฬโรคที่มีอาการต่อมน้ำเหลืองบวมและอักเสบ ทำใหผู้คนล้มตายไปมากกว่า 20 ล้านคนทั่วยุโรป ซึ่งนับเป็น 30% ของประชากรทั้งทวีป เมืองต่างๆกลายเป็นดินแดนแห่งความตายเพราะไม่สามารถจะหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคจากคนสู่คนได้ หากมองจากทั้งโลก Black Death นี้ได้ฆ่าประชากรโลกไปมากกว่า 350-375 ล้านคนในช่วงศตวรรษที่ 14 โดยเชื่อว่ามันถือกำเนิดขึ้นในเอเซียแล้วแฝงมากับพวกหนูบนเรือพ่อค้าไปทั่วทะเลเมดิเตอเรเนียนและเข้าสู่ยุโรปในที่สุด


THE MIDDLE AGES: THE CATHOLIC CHURCH (คริสตจักร / ศาสนาคริสต์เรืองอำนาจ)

หลังจากที่โรมล่มสลายก็ไม่มีรัฐบาลเดี่ยวไหนๆที่จะรวมชาวยุโรปทั้งทวีปเป็นปึกแผ่นได้อีก ในช่วงเวลานั้นเองที่คริสตจักรขยายอำนาจเติบโตจนกลายเป็นสถาบันที่ทรงพลังที่สุดในยุคกลาง กษัตริย์ ราชินี หรือไม่ว่าจะเป็นผู้นำไหนๆมากมายต่างก็ได้รับพลังอำนาจจากการเป็นพันธมิตรและได้รับการปกป้องจากคริสตจักรเกือบทั้งสิ้น

ยกตัวอย่างเช่น ใน 800 CE ศตวรรษที่ 9 พระสันตะปาปา (Pope) Leo III แต่งตั้งกษัตรย์ชาวแฟรงค์ Charlemagne ให้เป็นจักรพรรดิของชาวโรม Emperor of the Romans ซึ่งเป็นพระองค์แรกหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันเมื่อกว่า 300 ปีก่อน ภายหลัง ดินแดนของ Charlemagne ก็ได้รับขนานนามว่าเป็น Holy Roman Empire (เข้าใจแล้วสินะครับว่าทำไมถึงมีทั้ง Holy และ Roman รวมกัน) ขาใหญ่ทางการเมืองในยุโรปซึ่งมีความสัมพันธ์กับศาสนจักรอย่างใกล้ชิด

ใหญ่ขนาดไหน? สามัญชนทั่วไปในยุโรปต้องจ่ายรายได้ 10% ให้กับศาสนจักรทุกปีในขณะที่ศาสนจักรไม่ต้องจ่ายภาษี ทั้งหมดนี้ทำให้ฐานะและอำนาจของศาสนจักรยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ


THE MIDDLE AGES: THE RISE OF ISLAM (ศาสนาอิสลามเรืองอำนาจ)

อีกด้านหนึ่ง โลกของศาสนาอิสลามก็ขยายตัวยิ่งใหญ่ขึ้นเช่นกัน หลังการตายของนบีมุฮัมมัดได้เสียชีวิตลงในปี 632 CE กองทัพมุสลิมก็เข้ายึดครองตะวันออกกลาง รวมหลายดินแดนภายใต้หนึ่งกาหลีบ (ผู้นำทางศาสนาของประเทศมุสลิม อาณาเขตของโลกอิสลามในยุคกลางนั้นมีขนาดใหญ่กว่าดินแดนของคริสตจักรกว่าสามเท่าเลยทีเดียว

ภายใต้กาหลีบทั้งหลาย ความเจริญทั้งทางปัญญาและสังคมของทั้งหัวเมืองใหญ่ๆ เช่น Cairo, Baghdad และ Damascus ต่างก็หลอมรวมกัน นักกวี นักวิทยาศาสตร์และนักปราชญ์ทั้งหลายต่างเขียนหนังสือออกมาหลายพันเล่มบน"กระดาษ" สิ่งประดิษฐ์ที่ได้มาจากชาวจีนในช่วงศตวรรษที่ 8 เหล่านักวิชาการต่างแปลตำราของกรีก อิหร่าน และอินเดียเป็นภาษาอารบิค นักประดิษฐ์สร้างกล้องรูเข็ม สบู่ กังหันลม เครื่องมือผ่าตัด เครื่องบินยุคแรกเริ่ม และระบบตัวเลขที่พวกเราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ (เลขอารบิค) นักวิชาการยังได้แปล Quran คัมภีร์กุรอานของศาสนาอิสลามและสอนให้แก่ผู้คนทั่วตะวันออกกลางอีกด้วย


THE MIDDLE AGES: THE CRUSADES สงครามครูเสด

เขียนจัดหนักไว้ให้เสพแล้วที่ http://goldenplayne.blogspot.com/2015/04/crusader.html

สงครามอันยาวนาน 200 ปีระหว่างศาสนาคริสต์และอิสลามเพื่อแย่งชิง Holy Land ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของทั้งสองศาสนา สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครได้รับชัยชนะอย่างแท้จริง ทั้งสองฝั่งสูญเสียไพร่พลไปมากมายหลายพันคน สงครามครูเสดทำให้ชาวคริสต์หลอมรวมเป็นหนึ่ง จากปรกติที่ทุกคนจะรู้สึกเหมือนคริสตจักรเป็นอะไรที่อยู่ไกลตัว  สงครามอันยาวนานในดินแดนของมุสลิมทำให้เหล่านักรบ Crusaders ได้สัมผัสถึงวรรณกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ซึ่งมีผลกระทบมาถึงชาวยุโรปในยุคปัจจุบัน


THE MIDDLE AGES: ART AND ARCHITECTURE (ศิลปะและสถาปัตยกรรม)

หนึ่งในวิธีแสดงการอุทิศตัวให้กับศาสนจักรก็คือการสร้างโบสถ์หรือสื่งก่อสร้างที่เกี่ยวกับศาสนาคริสต์ต่างๆ เพราะเหตุนี้ โบสถ์จึงเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตที่สุดในยุโรปยุคกลาง และจะพบเห็นได้ตามใจกลางเมืองต่างๆทั่วทั้งทวีป ซึ่งตั้งแต่ศตวรรษที่ 10-13 โบสถ์ทั้งหลายเหล่านี้จะสร้างในสไตล์โรมาเนสก์ Romanesque (ซึ่งก็มาจากยุคสมัยโรมันที่ล่มสลายไปแล้วนั่นเอง)

ประมาณปี 1200 เหล่าผู้สร้างโบสถ์ทั้งหลายก็เริ่มรับเอาสถาปัตยกรรมสไตล์ใหม่ที่เรียกว่าโกธิค Gothic ซึ่งพัฒนาขึ้นมาจากแบบ Romanesque ในฝรั่งเศสแล้วนิยมกันยาวไปจนถึงยุค Renaissance เลยทีเดียว ใช่ครับ แนวการแต่งตัว ศิลปะแบบกอธๆ Goth ที่ยังเป็นที่นิยมในสมัยนี้ก็มาจากยุคนี้นั่นเอง


ก่อนที่การตีพิมพ์จะถูกคิดค้นขึ้นในศตวรรษที่ 15 หนังสือทุกเล่มเป็นงานศิลปะ เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายในวัดจะค่อยๆประดิษฐ์หนังสือที่เต็มไปด้วยภาพประกอบหลากสีอันแสนสวย ตัวอักษรสีเงินและทองเป็นประกายวาววับประทับใจ ภายหลังในศตวรรษที่ 12 เหล่าผู้ทำหนังสือทั้งหลายจึงเริ่มผลิตหนังสือที่มีภาพประกอบขนาดเล็กแล้วขายให้แก่เหล่าเศรษฐีไปสะสม


THE MIDDLE AGES: ECONOMICS AND SOCIETY (เศรษฐกิจและสังคม)

ในยุโรปยุคกลางนั้นชีวิตในชนบทจะถูกปกครองด้วยระบบศักดินา feudalism ซึ่งกษัตริย์จะมอบที่ดินเรียกว่า fiefs ให้กับขุนนางและบิชอบ หัวหน้าบาทหลวง พวกไพร่ที่ไม่มีที่ดินเรียกว่า serfs จะทำงานในที่ดินเหล่านั้น พวกเขาจะเพาะปลูก เก็บเกี่ยว และมอบผลผลิตให้แก่เจ้าของที่ดิน และจะได้รับสิทธิ์ในการอาศัยอยู่บนดินแดนเหล่านั้นและการปกป้องจากผู้รุกรานเป็นการตอบแทน


ช่วงระหว่างศตวรรษที่ 11 ระบบศักดินาก็เริ่มที่จะเปลี่ยนไป การคิดค้นทางการเกษตรเช่น เครื่องไถนาและการปลูกพืชหมุนเวียนทำให้การทำฟาร์มมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความต้องการในแรงงานก็ลดน้อยลง แต่ก็ทดแทนกันด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นตามปริมาณอาหารที่ผลิตได้ ผู้คนมากมายก็เริ่มออกเดินทางเข้าสู่เมืองต่างๆ สงครามครูเสดก็เปิดเส้นทางการค้าสู่ตะวันออก ให้ชาวยุโรปได้ลิ้มรสสินค้านำเข้าจากตะวันออก เช่น ไวน์ น้ำมันมะกอก และผ้าลายต่างๆที่หรูหรา ในปี 1300 มีเมืองใหญ่กว่า 15 เมืองทั่วยุโรปที่มีประชากรในแต่ละเมืองมากกว่า 50000 คน


และในเมืองต่างๆเหล่านี้เองที่ยุคใหม่ Renaissance ได้ถือกำเนิดขึ้นซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทางปัญญาและเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งก็มีรากฐานมาจากช่วง Medieval หรือยุคกลางนั่นเอง

---------------------------------------

ติดตามพวกเรา SCA ในประเทศไทยได้ที่ https://www.facebook.com/SCAThailand
เข้ามาพูดคุยกับเหล่าสมาชิกได้ที่ https://www.facebook.com/groups/scathailand

ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบครับ
Honorable Lord Grimr Korni
Seneschal
Canton of Golden Playne


1 comment:

  1. รบกวนฝากหน่อยน่ะค่ะ
    โปรโมชั่น สกรีนเสื้อคู่รัก เพียง 199 บ.
    ออกแบบสกรีนเสื้อคู่รัก ทำเสื้อคู่รัก
    สามารถออกแบบลายสกรีนเสื้อคู่รักเอง ไม่มีขั้นต่ำสำหรับเสื้อคู่รัก
    1TeeShirt รับทำเสื้อคู่รัก ราคาถูก
    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http:www.1Teeshirt.com น่ะ

    ReplyDelete